ฝ้า เป็นปัญหาผิวกวนใจของใครหลายคน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ในปัจจุบันมีครีมทาฝ้ามากมายวางขายในตลาด การเลือกครีมทาฝ้าให้ได้ผลจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับ ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า ฝ้า มีกี่ประเภท ครีมที่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดฝ้า มีอะไรบ้าง และควรเลือกครีมทาฝ้าแบบไหนให้เหมาะกับสภาพผิวมากที่สุด นอกจากนี้แล้วควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าครีมนั้นได้ผลจริง
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggleก่อนอื่นเรามาทำความรู้กันก่อนว่า ฝ้า (Melasma) คืออะไร
ฝ้า (Melasma) เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้เกิดแผ่นหรือจุดสีเข้มบนผิวหน้า โดยมักปรากฏที่บริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก และริมฝีปากบน ฝ้ามักจะมีลักษณะเป็นแผ่นใหญ่หรือเป็นกลุ่มจุดเล็กๆ ที่มีสีเข้มกว่าโทนผิวปกติ
ประเภทของฝ้า
ฝ้าสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- ฝ้าตื้น เกิดขึ้นในชั้นผิวหนังกำพร้า มีลักษณะเป็นแผ่นหรือจุดสีเข้มที่เห็นได้ชัด ฝ้าตื้นสามารถรักษาได้ง่ายและเห็นผลได้เร็ว
- ฝ้าลึก เกิดขึ้นในชั้นผิวหนังแท้ ลักษณะเป็นจุดสีเข้มที่ไม่ชัดเจนมากนัก การรักษาฝ้าลึกอาจใช้เวลานานและต้องใช้วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
- ฝ้าผสม เป็นฝ้าที่เกิดขึ้นทั้งในชั้นผิวหนังกำพร้าและชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นทั้งแผ่นและจุดสีเข้ม การรักษาฝ้าผสมจะต้องใช้วิธีการรักษาหลายรูปแบบร่วมกัน
ลักษณะของฝ้าในผิวหนัง
ฝ้ามักจะมีลักษณะเป็นแผ่นหรือจุดสีเข้มที่มีสีเทา น้ำตาล หรือดำ ลักษณะของฝ้าจะแตกต่างกันไปตามประเภทและความรุนแรง บางครั้งฝ้าอาจเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างและมีลักษณะเป็นเส้นขอบไม่เรียบ ผิวหนังที่มีฝ้าจะมีสีไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่เรียบเนียน
สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า
แสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลต (UV)
แสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า รังสี UV กระตุ้นการผลิตเมลานินในผิวหนัง ทำให้เกิดแผ่นหรือจุดสีเข้มบนผิวหน้า การป้องกันแสงแดดโดยการใช้ครีมกันแดดและการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นวิธีที่สำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดฝ้า
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือการรักษาด้วยฮอร์โมน สามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ การปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาหรือการรักษาอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฝ้า
พันธุกรรม
พันธุกรรมเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการเกิดฝ้า หากมีประวัติครอบครัวที่มีฝ้า ความเสี่ยงในการเกิดฝ้าของคุณก็จะสูงขึ้น การดูแลผิวหน้าและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้าในผู้ที่มีพันธุกรรมเสี่ยง
ผลกระทบจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีที่ทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือแพ้ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดฝ้าได้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองว่าปลอดภัยสำหรับผิวหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฝ้า
มลภาวะและสภาพแวดล้อม
มลภาวะทางอากาศและสารเคมีในสภาพแวดล้อมสามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ การป้องกันผิวหน้าจากมลภาวะโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารป้องกันมลภาวะและการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฝ้า
การเข้าใจถึงสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าจะช่วยให้คุณสามารถดูแลและป้องกันผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการป้องกันและรักษาฝ้า
การป้องกันฝ้าจากแสงแดด
แสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า การป้องกันฝ้าจากแสงแดดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง คุณควร
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงและป้องกันรังสี UVA และ UVB อย่างน้อย 30 นาที ก่อนออกแดด
- สวมหมวกปีกกว้างหรือใช้ร่มเมื่อต้องออกแดด
- หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่แดดแรงที่สุด (10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น)
- ใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังเมื่อต้องออกแดด
การใช้ครีมทาฝ้าที่มีประสิทธิภาพ
การเลือกใช้ครีมทาฝ้าที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการลดฝ้าสำคัญมาก คุณควร
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน เช่น เมลาตินเอ็กซ์, วิตามินซี, อัลฟ่า อาร์บูติน, กรดโคจิก, และไนอาซินาไมด์
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิว เช่น กรดไฮยาลูรอนิกและวิตามินอี
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแพ้
การรักษาฝ้าด้วยวิธีทางการแพทย์
หากฝ้ามีความรุนแรง การรักษาฝ้าด้วยวิธีทางการแพทย์อาจเป็นทางเลือกที่ดี คุณสามารถ
- ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม
- การใช้ยาทาที่มีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน, กรดทรานซามิค หรือเรตินอยด์
- การทำเลเซอร์หรือการทำทรีตเมนต์อื่น ๆ ที่ช่วยลดฝ้า เช่น การทำไอพีแอล (IPL) หรือการทำเลเซอร์พิกเมนต์
- การทำเคมีลอกผิว (Chemical Peel) เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่มีฝ้าออก
การดูแลผิวหน้าและการใช้ชีวิตประจำวัน
การดูแลผิวหน้าและการมีไลฟ์สไตล์ที่ดีจะช่วยลดการเกิดฝ้าได้ คุณควร
- ล้างหน้าให้สะอาดทุกวันเช้าและเย็น เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิว
- หลีกเลี่ยงความเครียดและนอนหลับให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
การดูแลและป้องกันผิวหน้าจากฝ้าด้วยวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีผิวหน้าที่กระจ่างใสและสุขภาพดี
วิธีการเลือกครีมทาฝ้าที่เหมาะสม
พิจารณาจากส่วนประกอบสำคัญ
เมื่อคุณเลือกครีมทาฝ้า ควรพิจารณาส่วนประกอบที่สำคัญที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ เช่น
- สารยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน เช่น ไฮโดรควิโนน, เมลาติน เอ็กซ์, กรดโคจิก, อัลฟ่า อาร์บูติน เป็นต้น
- สารบำรุงผิว เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, ไฮยาลูรอนิก ฯลฯ
- สารป้องกันแสง UV เพื่อป้องกันการเกิดฝ้าจากแสงแดด
- ตรวจสอบการรับรองคุณภาพและความปลอดภัย
ควรเลือกครีมทาฝ้าที่ได้รับการรับรองคุณภาพและปลอดภัยจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น มีการรับรองจากองค์การควบคุมคุณภาพสินค้าอาหารและยา (FDA) หรือมีการทดสอบและรีวิวจากผู้ใช้งานที่เชื่อถือได้
เลือกครีมทาฝ้าที่เหมาะกับสภาพผิว
ควรพิจารณาสภาพผิวของคุณเมื่อเลือกครีมทาฝ้า เนื่องจากผิวแตกต่างกันไป คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับปัญหาของผิวของคุณ เช่น
- ผิวแห้ง เลือกครีมทาฝ้าที่มีสารบำรุงเพิ่มเติมเช่น วิตามินอีหรือไฮยาลูรอนิก
- ผิวมัน เลือกครีมทาฝ้าที่มีสูตรบางเบาและไม่ทำให้ผิวมันเหนียว
- ผิวแพ้ง่าย เลือกครีมทาฝ้าที่มีส่วนประกอบอ่อนโยนและไม่มีสารเคมีที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแพ้
การเลือกครีมทาฝ้าที่เหมาะสมกับคุณเองจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการใช้ครีมทาฝ้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนทาครีม
- ล้างหน้า ใช้น้ำอุ่นและน้ำยาล้างหน้าเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้า
- ผิวสะอาดและแห้ง ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่มีสารเคมีรุนแรงและทำให้ผิวแห้ง
วิธีการทาครีมและปริมาณที่เหมาะสม
- ทาครีมเป็นระดับบาง ใช้นิ้วก้อนนิ้วชี้หรือนิ้วกลางเอาไว้และทาครีมบางๆ ลงบนแผ่นหน้า
- เกลี่ยครีม ใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆ กระจายครีมให้ทั่วผิวหน้า
- ปรับปริมาณตามความต้องการ ปรับปริมาณครีมตามความต้องการของผิว
คำแนะนำในการใช้ครีมทาฝ้าในช่วงเวลาต่าง ๆ
- ใช้ในเช้าและก่อนออกจากบ้าน ทาครีมทาฝ้าในเช้าก่อนที่จะต้องออกไปแดดเพื่อป้องกันการเกิดฝ้าจากแสงแดด
- ใช้ก่อนการใช้สิ่งสกปรก ทาครีมทาฝ้าก่อนการใช้เครื่องสำอางเพื่อให้ครีมได้เวลาซึมเข้าไปในผิวหน้าให้ดี
- ใช้ก่อนการนอน ทาครีมทาฝ้าในช่วงก่อนนอนเพื่อให้ครีมทำงานระหว่างการพักผ่อนของผิวหน้าในระหว่างเวลาพักผ่อนของคุณ
การใช้ครีมทาฝ้าให้ถูกวิธีและเหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลดฝ้าและบำรุงผิวหน้าของคุณ
คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้ครีมทาฝ้า
ปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นและการป้องกัน
- ปฏิกิริยาแพ้ หากมีอาการแพ้หรือระคายเคืองหลังใช้ครีมทาฝ้า ควรหยุดการใช้งานและปรึกษาแพทย์ทันที
- การเสื่อมสภาพผิว ควรใช้ครีมทาฝ้าตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพผิวหน้า
คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
- ทดลองทาบริเวณท้องแขน ก่อนที่จะใช้ครีมทาฝ้าบนผิวหน้าทั้งหมด ควรทดลองทาบริเวณท้องแขนเพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาแพ้หรือไม่
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เลือกครีมทาฝ้าที่มีส่วนประกอบอ่อนโยนและไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษหรือก่อให้เกิดการระคายเคือง
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณมีความกังวลหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ครีมทาฝ้า ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำและคำปรึกษา
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง เลือกใช้ครีมทาฝ้าที่ได้รับการรับรองคุณภาพและปลอดภัยจากองค์กรที่เชื่อถือได้หรือมีการรีวิวจากผู้ใช้งานที่เชื่อถือได้
การปฏิบัติตามคำแนะนำและระวังในการใช้ครีมทาฝ้าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์และช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการดูแลผิวหน้าของคุณ
ครีมทาฝ้า เนื้อเซรั่มสูตรเข้มข้น
ALESE DARK SPOT AND ANTI MELASMA
ครีมทาฝ้า บอกลาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ กระจ่างใส ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวใต้ผิวหนัง ป้องกันฝ้าเก่าไม่กลับมาเป็นซ้ำ บำรุงผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ สีผิวสม่ำเสมอ ผิวเด้ง เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น แข็งแรง ช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน เนื้อเซรั่มกึ่งครีมซึมไวไม่มันไม่เหนียวเหนอะหนะสามารถสามารถใช้ได้ทั้งเช้าเย็น และใช้ก่อนแต่งหน้าได้ ปลอบประโลมผิวเป็นเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ที่สำคัญเลยคือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้อีกด้วยให้ผิวหน้าดูแลดูกระจ่างใสรู้สึกได้ใน 7 วัน
- ลดโอกาสการเกิดฝ้าใหม่ ป้องกันฝ้าเก่าไม่กลับมาเป็นซ้า
- ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน
- บำรุงผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติสีผิวสม่าเสมอ
- ผิวนุ่มชุ่มชื้นยาวนาน 72 ชั่วโมง
- อ่อนโยนต่อผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
ส่วนผสมหลัก ครีมทาฝ้า บอกลาฝ้า กระ จุดด่างดำ
- MELATEIN-X สารสกัดไวท์เทนนิ่ง ยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวประสิทธิภาพออกฤทธิ์ได้มากกว่า ARBUTIN ถึง 80 เท่า
- MELAZERO ช่วยสลายเม็ดสีเมลานินบนผิวหนังและยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินบนผิวหนัง
- BRIGHLETTE มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งกลไกที่ทำให้ผิวหมองคล้ำได้ทุกกลไก
- VC-IP มีประสิทธิภาพที่ดีในการทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใส ลดฝ้ากระจุดด่างดำ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- PENTAVITIN ช่วยในการเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน
- Tranexamic acid ช่วยปรับผิว ให้กระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ผิวคล้ำหรือเป็นฝ้า โดยมีสาเหตุจากแสงแดด
- Dragon Blood ใน ครีมทาฝ้า มีคุณสมบัติช่วยชะลอและลดเลือนริ้วรอย ลบเลือนรอยแผลเป็น ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ รังสียูวี มลภาวะที่เป็นพิษ ช่วยลดรอยแดงบนใบหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- Concentrate Multi Vitamins
มีประสิทธิภาพที่ดีในการทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใส ลดฝ้ากระจุดด่างดำ
ช่วยลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ช่วยลดอาการแดงและอาการระคายเคืองบนผิว
ช่วยสมานแผลและเร่งการสร้างเนื้อเยื่อชั้นผิวใหม่ ลดการอักเสบของผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ผิวที่เป็นสิว เป็นแผล เป็นผื่นคัน มีอาการแพ้ - ASTAXANTIN สาหร่ายสีแดง มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากกว่าวิตามิน E กว่า 100 เท่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวี โดยเฉพาะรังสี UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
วิธีใช้งาน
ใช้ผลิตภัณฑ์ให้ทั่วผิวหน้าและลำคอ เช้าและก่อนนอนอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุด หากต้องออกแดดแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ
สั่งซื้อสกินแคร์ของเราในราคาพิเศษวันนี้! คลิ๊กเลย!